รีวิวเว้ย (1947) น่าสนใจว่าหากวันนี้อาจารย์ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ ยังอยู่อาจารย์จะมองเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างไร และอาจารย์จะมองปฏิบัติการที่เกิดขึ้นระหว่างคน 2 ชาตินี้อย่างไร และรวมไปถึงอาจารย์จะมองเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับคุณอังคณา นีละไพจิตร และกับอีกหลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่กำลังเดินไปในสังคม (บ้า ๆ) แห่งนี้อย่างไร ด้วยความสงสัยว่าหากอาจารย์ยังอยู่ อาจารย์จะตอบคำถามหรือมองปรากฎการณ์เหล่านี้อย่างไร นี่เลยลองค้นเอาหนังสือที่อยู่ใกล้ตัวที่เป็นงานเขียนของอาจารย์มาเปิดอ่าน และสะดุดอยู่ตรงบทความชิ้นหนึ่งที่อาจารย์เขียนไว้ว่า
.
" ... ความเกลียดชังเป็นปัญหาของมนุษย์ทั่วไปในปัจจุบัน เพราะเป็นองค์ประกอบสำคัญของความโหดร้ายทารุณ ที่สำคัญคือความเกลียดชังเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาได้ จัดให้เป็นระบบมีกฎมีเกณฑ์ ตราเป็นกฎหมายก็ได้ ดังนั้นจึงถ่ายทอดจากคนรุ่นหนึ่ง ไปสู่อีกรุ่นหนึ่งได้ สังคมสร้างความเกลียดชังโดยการแบ่ง 'พวกเขา' ออกจาก 'พวกเรา' กำหนดกฎเกณฑ์ให้ตระหนักว่าพวกเขา มีความน่ารังเกียจ สกปรก มีวิถีชีวิตที่ต่างไปจากพวกเรา ... มนุษย์ไม่ควรยอมจำนนต่อคำสาปแห่งความเกลียดชัง ความลับของเรื่องนี้อยู่ที่ว่าความเกลียดชังเป็นสิ่งที่สร้างได้ ถ่ายทอดได้ แสดงว่าความเกลียดชังเป็นสิ่งที่เรียนรู้ได้ อะไร ๆ ที่เรียนรู้ได้ก็ยกเลิกได้เช่นกัน ... " (ความเกลียดในสังคม, น.64-66)

หนังสือ : ราวกับมีคำตอบ
โดย : ชัยวัฒน์ สถาอานันท์
จำนวน : 168 หน้า
.
"ราวกับมีคำตอบ" ของ ศาสตราจารย์ ดร. ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ เป็นเสมือนงานเขียนแนวสารคดีเชิงความคิด ที่เชื้อเชิญให้ผู้อ่านออกเดินทางไปพร้อมกับผู้เขียนเพื่อสำรวจโลกและชีวิตผ่านการตั้งคำถาม หนังสือเล่มนี้รวบรวมบทความเชิงความคิดที่ผู้เขียนได้เก็บเกี่ยวจากประสบการณ์การเดินทาง การสังเกตชีวิตผู้คน และการใคร่ครวญในฐานะนักทฤษฎีสังคมและปรัชญาการเมือง
.
ข้อเขียนของอาจารย์ชัยวัฒน์มีความหลากหลาย แต่ทั้งหมดล้วนมีแกนหลักคือการตั้งคำถามอย่างจริงจังต่อสรรพสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชีวิต ความเชื่อ สังคม หรือประวัติศาสตร์ ดังที่ผู้เขียนกล่าวไว้ในคำนำว่า "ราวกับมีคำตอบ จึงน่าจะเป็นเพียงคำเชิญให้ท่านทดลองตั้งคำถามกับสรรพสิ่งดูบ้างเท่านั้น" โดย "ราวกับมีคำตอบ" ได้รวบรวมงานเขียนไว้ทั้งสิ้น 21 ชิ้น แบ่งเป็น 3 ภาค ได้แก่ คำถามเรื่องความเชื่อ คำถามเรื่องไทยกับเทศ และคำถามเรื่องตัวตน
.
"ราวกับมีคำตอบ" ไม่ใช่คู่มือค้นหาความจริงของโลกและสรรพสิ่ง แต่เป็นหนังสือที่ทำหน้าที่กระตุก กระตุ้น (บางหนก็กระทุ้ง) ต่อมความคิด ที่ผู้เขียนสวมวิญญาณมัคคุเทศก์นำทางให้เราไปสำรวจเรื่องราวต่าง ๆ รอบตัว บ้างเป็นเรื่องสามัญธรรมดา บ้างเป็นเรื่องที่ใหญ่เกือบเท่าโลกทั้งใบ การอ่านหนังสือเล่มนี้จึงเป็นประสบการณ์ที่ท้าทายสติปัญญาและเป็นการ "ทดลองตั้งคำถามกับสรรพสิ่ง" ซึ่งจะทำให้ชีวิตของผู้ตั้งคำถามไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in