หากคุณเป็นสายดูแลสุขภาพหรือกำลังควบคุมน้ำหนักอยู่ การคำนวณแคลอรีของอาหารแต่ละมื้อถือเป็นพื้นฐานสำคัญ เพราะการรู้ปริมาณพลังงานที่บริโภคเข้าไป จะช่วยให้สามารถวางแผนมื้ออาหารได้อย่างเหมาะสม

ทั้งนี้ หลายคนอาจเบื่อเนื้อสัตว์ไขมันต่ำอย่างอกไก่ และกำลังมองหาทางเลือกใหม่ที่ยังคงให้โปรตีนสูง แต่อร่อยและมีรสสัมผัสที่หลากหลายมากขึ้น “เนื้อหมู” จึงกลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกยอดนิยม โดยเฉพาะในหมู่คนที่ต้องการควบคุมแคลอรีแต่ไม่อยากลดความอร่อย

ดังนั้น ในบทความนี้ เราขอพาคุณไปสำรวจว่า เนื้อหมูแต่ละส่วน 100 กรัม ให้พลังงานประมาณกี่แคลอรี เพื่อเป็นแนวทางให้สายสุขภาพสามารถเลือกเนื้อหมูที่เหมาะสมกับเป้าหมายของตนเองได้อย่างมั่นใจ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกัน

• สันใน

สันใน (Tenderloin) เป็นเนื้อส่วนนี้ไขมันต่ำมาก ให้พลังงานประมาณ 180 แคลอรี ต่อ 100 กรัม ไขมันต่ำเพียง 3-4 กรัม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนักหรือควบคุมไขมัน เพราะเป็นเนื้อที่นุ่ม ไขมันน้อย และสามารถนำไปทำเมนูเฮลท์ตี้ได้หลากหลาย เช่น หมูนึ่งสมุนไพรหรือหมูอบไร้น้ำมัน

• สันนอก

สันนอกให้พลังงานประมาณ 120 แคลอรี ต่อ 100 กรัม มีไขมันน้อย และเนื้อแน่น เคี้ยวง่าย นิยมใช้ในเมนูอบหรือย่าง ให้โปรตีนประมาณ 21-22 กรัม และมีไขมันราว 5-6 กรัม เนื้อแน่น เคี้ยวง่าย รสชาติดี เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นกินคลีน โดยสามารถนำไปทำเมนูอย่างหมูย่างเตาถ่าน หมูสเต๊ก หรือผัดผักแบบน้ำมันน้อย

• สันคอ

สันคอ มีไขมันแทรกมากขึ้นเล็กน้อย ให้พลังงานประมาณ 200 แคลอรี ต่อ 100 กรัม ให้โปรตีน 19-20 กรัม และมีไขมันค่อนข้างสูงที่ประมาณ 15-17 กรัม โดยมีจุดเด่นที่ความนุ่มฉ่ำจากไขมันแทรก เหมาะสำหรับคนที่ชอบเนื้อสัมผัสแบบมีความชุ่ม ไม่แห้งมาก แต่อาจต้องระวังเรื่องปริมาณไขมัน โดยควรเลือกวิธีปรุงแบบใช้หม้อทอดไร้น้ำมัน เช่น หมูย่างหรือหมูทอดกระเทียมแบบคลีน

• สามชั้น

สามชั้น เป็นส่วนที่มีไขมันสูง ให้พลังงานประมาณ 500 แคลอรี ต่อ 100 กรัม และมีไขมันสูงถึง 30-35 กรัม เป็นเนื้อที่มีรสชาติดี เคี้ยวมัน แต่ควรจำกัดปริมาณการบริโภค โดยเฉพาะหากกำลังควบคุมน้ำหนัก แต่หากเลือกวิธีทำอาหารแบบอบหรือต้ม การตักมันออก ก็สามารถทานได้อย่างพอดี

• สะโพก

สะโพก ให้พลังงานประมาณ 160 แคลอรี ต่อ 100 กรัม เป็นเนื้อที่ไขมันไม่มาก เหมาะสำหรับทำเมนูผัดหรือแกง และมีไขมันอยู่ที่ประมาณ 7–8 กรัม เป็นเนื้อที่เน้นโปรตีนสูงและไขมันปานกลาง ราคาไม่แพง หาซื้อง่าย เหมาะกับเมนูต้ม ผัด หรืออบ โดยเฉพาะหมูผัดพริก หรือหมูต้มจิ้มแจ่วที่ให้รสจัดจ้านแต่ไม่หนักไขมัน

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.pitchameat.com/