เราอ่านเรื่องนี้ต่อจาก ปกติคือไม่รัก 
คือเรื่องนั้นพูดถึงความสัมพันธ์
และการแตกสลายของมนุษย์
เรื่องนี้ก็พูดถึงเรื่องเดียวกันแต่ดำเนินเรื่องในบริบทของความเป็นญี่ปุ่น ซึ่งก็สาหัสสากรรจ์ไม่แพ้กัน 
.
แต่เรื่องนี้รู้สึกอึดอัดมากกว่า อึดอัดกับสภาพสังคมและความกดดันที่คนคนหนึ่งต้องแบกรับเอาไว้ไม่ได้ใจพังใจล้าเหมือนเรื่องปกติคือไม่รัก
.
ความเหมือนของสองเรื่องนี้คือ คีย์แมสเสจที่บอกว่า บนความเพี้ยนทุกอย่างที่เรามีในตัว เรื่องราวที่เราเคยเจอมาหรือสภาพแวดล้อมที่เราเติบโตมามันส่งผลต่อการเป็นเราในปัจจุบัน 
.
เป็นพล็อตที่หนักประมาณนึงสำหรับความเป็นญี่ปุ่น 
คือปกติเราจะอ่านหนังสือญี่ปุ่นที่ฟีลกู๊ด 
ที่ไม่มีประเด็นรุนแรงอะไรแอบแฝงมากมาย ชุบชูใจ
แต่นี่ไม่เป็นแบบนั้นจ้า ไม่มีภาพนุ่มนวลให้อ่าน 
มีแต่จะขยี้ความซวยในชีวิตคนคนหนึ่งซ้ำแล้วซ้ำอีก 
คุณนักเขียนดึงประเด็นหนักๆในญี่ปุ่นออกมาเล่นแทบทั้งหมด เช่น
Domestics Violence
การเป็นโลลิคอน (รสนิยมทางเพศที่ชอบเด็กจิ๋ว) 
การล่วงละเมิดทางเพศในครอบครัว 
Cyber bullying 
ความคาดหวังต่อสตรีเพศในสังคมญี่ปุ่น
การเลี้ยงดูลูกตามคู่มือ 
.
ประเด็นแรงๆทั้งหมดที่ถูกดึงเข้าหากันเล่าเป็นนิยาย
ระหว่างอ่านก็รู้สึกว่า โลกแม่งใจร้ายชะมัด 
.
เนื้อเรื่องย่อๆก็ประมาณว่า นางเอกวัย 9 ขวบเป็นเด็กกำพร้าอยู่กับป้า ไปเจอพระเอกวัย 19 ขวบเป็นเด็กมหาลัยที่ไปนั่งดูเด็กผู้หญิงตัวเล็กเล่นกันในสนามเด็กเล่นทุกวัน วันดีคืนดีจับพลัดจับผลูพระเอกชวนนางเอกกลับบ้าน ก็อยู่กันแบบนั้นอย่างมีความสุข เติมเต็มช่องว่างในจิตใจของกันและกัน (แต่ไม่ได้มีอะไรกันนะ อยู่กันเฉยๆนี่ล่ะ) 
.
วันหนึ่งมีคนจำนางเอกได้ว่าเป็นเด็กที่หายตัวไปเลยแจ้งตำรวจ พระเอกโดนจับเข้าคุกข้อหาลักพาตัว ถูกตราหน้าว่าเป็นโลลิคอน ผ่านไป 15 ปี สองคนนี้โคจรมาเจอกันอีก ในวันที่นางเอกมีแฟนที่กำลังจะแต่งงาน ส่วนพระเอกก็มีแฟนแล้ว 
พอก่อน ให้ไปอ่านเอง 
. 
ผู้เขียนเล่าเรื่องผ่านตัวละคร 2 ตัว 
จากมุมนางเอกและมุมพระเอก 
เรื่องราวมันทวีความดาร์กมากขึ้นเรื่อยๆ
และไประเบิดที่ตอนสุดท้าย
. 
พออ่านจนจบจะเห็น overall โทนของเรื่อง 
หากเปรียบเป็นสี 
เรามองเรื่องนี้เกือบทั้งหมดเป็นสีดำ ไม่มีสีสดใส
มีเพียงช่วงเวลาตอนที่นางเอก 9 ขวบอยู่กับพระเอก 19 ขวบ หรือช่วงทุกคนต่างเข้าใจไปว่านั่นคือการลักพาตัวนั้นเป็นสีขาวเป็นสีสว่างสีเดียวในความมืดมิด
.
ช่วงเวลาที่มีน้อยนิดนั่นแหละ ความสุขที่เกิดขึ้นเพียงเสี้ยวเวลานึงถ้าเทียบกับทั้งหมดของชีวิตนั้นเหมือนเป็นบ่อน้ำกลางทะเลทรายในใจของนางเอก ลืมไปไม่ได้และยึดติดกับมันตลอดมา
.
นางเอกบอกว่าพระเอกไม่ใช่ความรัก 
ไม่ใช่แม้แต่ความสัมพันธ์แบบเพื่อน 
แบบแฟน หรือแบบครอบครัว 
แต่เท่าที่อ่านสองคนนี้เติมเต็มช่องว่างของกันและกัน ปรารถนาให้อีกคนอยู่อย่างมีความสุขและพบเจอในสิ่งที่ดี อยู่ด้วยกันแล้วเป็นตัวของตัวเอง สบายใจ รู้สึกปลอดภัย 
อะไรแบบนี้มันจะเป็นอะไรได้อีกถ้าไม่ใช่ความรัก
ยังนึกไม่ออก
 
				 
			
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in