ครั้งหนึ่งในชีวิตของคนเรา ต่างก็ต้องพบกับสิ่งที่เราต่างก็เรียกกันว่าจุดเปลี่ยนของชีวิต บ้างก็อาจจะมาในรูปเเบบเรื่องราวดีๆ สำหรับบางคนอาจจะเป็นการถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง ซึ่งสิ่งนั้นก็เป็นสิ่งที่เราเองผู้ซึ่งเป็นผู้เขียนก็คาดหวังว่าอยากที่จะให้เกิดในชีวิตอยู่เหมือนกัน หรือกับบางคนก็อาจจะเป็นเรื่องราวที่น่าเศร้า อาทิเช่นการสูญเสียคนที่เรารัก หรือการเกิดโรคร้ายๆขึ้นกับตน หรือคนรอบตัว ที่เรียกว่าต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตจากหน้ามือไปหลังมือกันทีเดียว
มะเร็ง คงเป็นอีกโรคหนึ่งที่ถ้าได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเเม้ว่าจะไม่รู้ว่าระยะความรุนเเรงของโรคร้ายเเรงเเค่ไหน เราเชื่อว่าหลายๆคนก็คงรู้สึกว่างเปล่าไปชั่วขณะ ไม่ว่าโรคนี้จะเกิดขึ้นกับตนหรือคนที่รัก
ถ้าถามถึงว่าโรคมะเร็งในภาพจำของเราจากสื่อที่โดนหล่อหลอมมาตั้งเเต่สมัยวัยเด็กเป็นอย่างไร? คงเป็นภาพจำของการที่ต้องโกนผม เเละโอกาสในการเสียชีวิตมีสูงมากหรือถึงเเม้ว่าในวัยที่เราโตขึ้นจะได้รับข้อมูลของโรคมะเร็งที่มากขึ้นเเละเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อรักษาโรคนี้ เเต่ถ้ามันเกิดขึ้นกับเราหรือคนรอบตัวต่อให้ไม่ใช่ระยะสุดท้ายก็คงอดไม่ได้ที่จะมีเรื่องเศร้าเคล้าน้ำตา
วันนี้เลยอยากจะชวนผู้ที่คลุกคลีกับผู้ป่วยมะเร็งมาตลอดระยะเวลาหลายปีในฐานะ พยาบาลวิชาชีพทางด้านการพยาบาลผู้ป่วยมะเร็ง มาพูดคุยว่าจริงๆเเล้วนั้นโรคมะเร็งมันเป็นอย่างไรกันเเน่ทั้งในเเง่ทางตรงเเละทางอ้อม
หน้าที่หลักในการทำงานตรงนี้คืออะไร?
หน้าที่หลักก็คือการให้ยาเคมีบำบัดเเก่ผู้ป่วย บางเคสก็จะทำร่วมกับการฉายเเสงด้วย เเล้วก็มีการดูเเลผู้ป่วยระยะสุดท้ายหลังจากที่ผู้ป่วยไม่สามารถให้ยาเคมีบำบัดได้เเล้ว
10 ปีก่อนกับตอนนี้อัตราผู้ป่วยมะเร็งเพิ่มขึ้นหรือลดลง ?
เเนวโน้มของการเป็นมะเร็งในประเทศไทยสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม มีปัจจัยจากสิ่งเเวดล้อมจำนวนมากที่อาจเป็นสาเหตุ นอกจากนั้นพฤติกรรมการทานอาหารของคนในยุคปัจจุบันก็เปลี่ยนไป
สิ่งที่ยากที่สุดในการทำงานในฐานะพยาบาลทางด้านผู้ป่วยมะเร็ง
ปัญหาสำหรับตอนนี้คือปริมาณคนไข้ที่มากกว่าอุปกรณ์ที่มี อุปกรณ์บางอย่างในการรักษามันไม่พอถ้าเทียบกับจำนวนคนไข้ที่เพิ่มขึ้นเยอะ ส่วนในการดูเเลรักษาผู้ป่วยเมื่อก่อนทางโรงพยาบาลที่ทำงานรับเพียงเเค่ผู้ป่วยมะเร็งที่เป็นวัยผู้ใหญ่เเต่เดี๋ยวนี้มีการปรับเปลี่ยนมารับผู้ป่วยมะเร็งเด็กเพิ่มด้วย เนื่องจากการดูเเลเด็กเล็กต้องมีการดูเเลที่ละเอียดอ่อนมาเป็นพิเศษเเละต้องใช้ทักษะในการเลือกเส้นเลือดให้ยาเคมีบำบัดด้วยเด็ก เเล้วทุกวันนี้มีการตรวจพบมะเร็งเจอในเด็กวัย 10-11 เดือนด้วยเราเลยรู้สึกว่าตรงเรื่องของการ หาเส้นเลือด เจาะเลือดนี่เเหละที่มันยาก
เนื่องจากมะเร็งเป็นโรคที่อัตราการเสียชีวิตสูง มีวิธีจัดการสุขภาพจิตของคนไข้ผ่านการพูดคุยหรือตัวเองอย่างไร โดยเฉพาะในกรณีของคนไข้มะเร็งระยะสุดท้าย
การให้ข้อมูลกิจกรรมสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนไข้ตลอดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด จริงๆเเล้วเราก็มีการให้ข้อมูลการรับรู้เรื่องโรคให้คนไข้มาตั้งเเต่เเรกเริ่มเเละให้มาเรื่อยๆเป็นช่วงๆ เพื่อให้คนไข้เข้าใจในโรคเเละสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวคนไข้เอง นอกจากนั้นก็ยังมีการให้ข้อมูลกับครอบครัวคนไข้เพื่อให้ญาติคนไข้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ อย่างเช่นภาวะมะเร็งระยะสุดท้ายการให้ยาเคมีบำบัดหรือการฉายเเสงร่างกายจะไม่ตอบสนองเท่าที่ควรเเล้วซึ่งคนไข้สามารถเลือกได้ว่าจะรักษาต่อที่โรงพยาบาลหรือจะกลับบ้านเพื่อไปดูเเลตัวเอง
ในฐานะที่ทำงานในโรงพยาบาลต่างจังหวัดมีสวัดดิการหรือสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรที่อยากให้ผู้ป่วยมะเร็งได้รับเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้ารับการรักษา
การให้ยาเคมีบำบัดจำเป็นต้องทำให้ครบและต่อเนื่อง แต่ปัญหาคือคนไข้ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ค่อนข้างไกลบางคนก็ต้องอาศัยขนส่งสาธารณะในการเดินทางมารับการให้ยาเเละคนไข้จำเป็นต้องให้ยาให้เสร็จ มีหลายครั้งที่การให้ยาเคมีกินเวลาไปจนดึกจนรถสาธารณะหมดเที่ยวเดินรถซึ่งทำให้คนไข้ไม่มีที่อยู่อาศัย เเม้ว่าทางโรงพยาบาลจะมีบ้านพักมะเร็งให้สำหรับคนไข้เเต่ก็ไม่พอเพียงกับปริมาณคนไข้ ถ้าจะให้เค้ามารอที่ตึกตัวตึกเองก็เต็มอีกทั้งยังมีญาติคนไข้เเละเวลาที่อนุญาติให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเฝ้าได้อีก ถ้าถามว่าสิ่งที่เราต้องการคืออะไร คงจะเป็นสวัสดิการรถรับส่งที่คอยไปรับไปส่งคนไข้ถึงที่บ้านเพราะถึงเเม้ว่าในจังหวัดจะมีรถสาธารณะเเต่มันก็ไม่ได้อำนวยความสะดวกเท่าที่ควรเเละระยะทางจากบ้านคนไข้มาโรงพยาบาลก็ไม่ใช่ระยะทางที่ใกล้เลย
คาดหวังอยากจะเห็นอะไรในวงการมะเร็งประเทศไทยในอนาคต ?
อยากให้มีอุปกรณ์ที่เพียงพอในการรักษา มันอาจจะเป็นเฉพาะในกรณีของโรงพยาบาลรัฐ เเต่จริงๆเเล้วโรงพยาบาลรัฐใหญ่ๆในต่างจังหวัดเองก็ประสบปัญหานี้เหมือนกัน เเล้วก็อยากให้มีบ้านพักหรือสถานที่รับรองผู้ป่วยได้มากกว่านี้
การทำงานตรงนี้ให้อะไรกับเรา ?
จริงๆทุกโรคมันก็มีความอันตรายที่เเตกต่างกันออกไป เเต่อย่างที่รู้กันว่ามะเร็งเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ มันก็ทำให้เรารู้ว่าอะไรคือความเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคนี้เเล้วก็หลีกเลี่ยงมันได้ ก็คงเหมือนโรคอื่นนั่นเเหละเเต่มะเร็งเป็นโรคที่เกิดขึ้นเเล้วไปไวมากมันเกิดการเปลี่ยนเเปลงกับร่างกายไวจริงๆนอกจากนั้นการดูเเลผู้ป่วยระยะสุดท้ายสิ่งที่เราสังเกตได้คือ กำลังใจจากครอบครัวหรือคนรอบข้างเป็นสิ่งที่สำคัญมาก บางกรณีของคนไข้ก็เข้าสู่สภาวะระยะสุดท้ายเเล้วเเต่คนไข้ก็สามารถข้ามจากจุดที่เครียดหรือวิตกกังวลไปได้เพราะความรักเเละกำลังใจจากคนรอบตัว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in